วิธีแก้ปัญหาบอกลาแชทผีและโฆษณาสแปมใน Facebook Message เมื่อเน้นข้อความแล้วเจอแค่โฆษณากวนใจ

กำลังเจอปัญหากับแชทผีและโฆษณาสแปมใน Facebook Message ใช่ไหม? ไม่ต้องกังวล! ในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการแก้ปัญหาการเน้นข้อความแล้วเจอแค่โฆษณาที่กวนใจ พร้อมทั้งเทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณจัดการกับการแสดงผลของโฆษณาใน Facebook ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“แชทผี” ใน Facebook Messenger คือข้อความที่ถูกส่งมาในช่องแชทของคุณจากบัญชีที่ไม่รู้จักหรือดูเหมือนเป็นการสแปม ซึ่งอาจเป็นข้อความที่ไม่มีความหมาย หรืออาจเป็นข้อความที่ดูเหมือนจะมาจากแหล่งที่น่าสงสัย เช่น บัญชีปลอม, โฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องการ หรือแม้กระทั่งการหลอกลวงจากผู้ที่พยายามขโมยข้อมูลส่วนตัว

ลักษณะของ แชทผี ใน Facebook Messenger

  1. ข้อความจากบัญชีที่ไม่รู้จัก มักจะมาจากคนที่ไม่เคยติดต่อ โดยข้อความอาจเป็นการชวนเชื่อมต่อหรือโปรโมทบางสิ่งบางอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกับแบรนด์
  2. ข้อความที่มีลิงก์หรือไฟล์แนบ บางครั้งข้อความอาจมีลิงก์ที่น่าสงสัยหรือไฟล์แนบที่ดูเหมือนจะเป็นไวรัส หรือคำขอให้คุณคลิกลิงก์เพื่อเข้าไปยังเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
  3. ข้อความที่มีลักษณะโฆษณาหรือการชักชวน เช่น การบอกว่า “คุณได้รับรางวัล” หรือ “คลิกที่นี่เพื่อรับข้อเสนอพิเศษ” ซึ่งมักจะเป็นการพยายามให้คุณคลิกหรือลงทะเบียนเพื่ออะไรบางอย่างที่ไม่ต้องการ

วิธีป้องกันและจัดการ

  1. บล็อกผู้ส่งข้อความได้ทันที หากรู้สึกว่าไม่ใช่ลูกค้าของคุณ เพื่อระบบ AI ของ Meta จะได้เข้าใจร่วมด้วยว่า User ประมาณนี้ไม่ใช่ลูกค้าของคุณ และจะได้นำส่งโฆษณาของคุณไปยังกลุ่มที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  2. การใช้ Excluded Location เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีในการกรองกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ต้องการออกจากโฆษณาของคุณ Excluded Location หมายถึง การตั้งค่าให้ ไม่แสดงโฆษณาในบางพื้นที่ ที่คุณคิดว่าอาจจะเป็นแหล่งที่ทำให้ได้รับการตอบสนองที่ไม่ต้องการ หรือทำให้เกิดการสแปมจากแหล่งที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น ประเทศหรือพื้นที่ที่คุณไม่ต้องการให้โฆษณาปรากฏ พื้นที่ที่มีประวัติการโฆษณาที่ต่ำหรือไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณ ข้อดีของการใช้ Excluded Location คือ ปรับปรุง Conversion Rate เมื่อโฆษณาไปยังกลุ่มที่ถูกต้อง ผลลัพธ์จะดีกว่า ทั้งในเรื่องของ Click-through Rate (CTR) และ Conversion Rate
  3. หากมีลูกค้ามาสั่งซื้อออเดอร์ผ่าน Facebook Messenger อย่าลืมสร้างออเดอร์ให้กับลูกค้าเพื่อปิดการขาย และอัปเดต Lead Stage และ Order Status ทางด้านมุมขวาเพิ่มเติมเพื่อให้ AI ระบบ Meta เรียนรู้กลุ่มลูกค้าคุณเพิ่มเติม เพื่อให้ ROAS ของคุณสูงขึ้นอีกด้วย
  4. ในหน้า Meta Ad Manger อย่าลืมเลือก Metric ในส่วนของ Cost per Message, Amount Spend, Purchase conversion value, ROAS (Return on ad spend) เพื่อเป็นการตรวจสอบควบคู่ด้วยว่าโฆษณาที่คุณส่งไปมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน และเกิดการซื้อขายหรือไม่ เพราะบางครั้งการได้ Cost per Message ที่ถูก ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นลูกค้าของเราจริงๆ ก็ได้
  1. ปรับปรุงโฆษณาเป็น objective อื่นร่วมด้วย เช่น conversion ads เพื่อให้ได้ลูกค้าที่แท้จริง ยกตัวอย่าง การสร้าง traffic ไปยังหน้าเว็บไซต์ของลูกค้าที่มีการกรอก Lead หน้าเว็บไซต์ โดยในหน้ากรอกข้อมูลนั้น แนะนำว่าติดตั้ง CAPTCHA เพื่อป้องกันการส่งข้อมูลจากบ็อต และใช้การยืนยันข้อมูล (Form Validation) เช่น อีเมลผิดพลาดหรือหมายเลขโทรศัพท์ไม่ถูกต้อง ทำให้ผู้ใช้แก้ไขก่อนที่จะส่งฟอร์ม

ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณดู แล้วคุณจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มอัตราการกรอกข้อมูลหรือการลดการทิ้งฟอร์ม การลดแชทผี! หรือหากคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมในการพัฒนาทำคอนเทนต์และโฆษณาบน Meta Ads ทาง Clisk พร้อมที่จะช่วยคุณให้การได้ลูกค้าและการตลาดออนไลน์ของคุณประสบความสำเร็จมากขึ้น

Visited 243 times, 1 visit(s) today

Enhance your sales and marketing efficiency in Southeast Asia with our expert social media team—contact us today for professional support.